การศึกษาผลสัมฤทธิ์วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นตามรูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
วิธีดำเนินการวิจัย
เรวดี หมวดดารักษ์. 2548.การศึกษาผลสัมฤทธิ์วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามรูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ สำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1. ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาขอนแก่น
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามรูปแบบการสอแบบร่วมมือกันเรียนรู้ ให้มีจำนวนนักเรียนร้อยละ70มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ70ขึ้นไป
2.เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียน เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาตร์โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสาน ตามรูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้
2.1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย
ได้แก่นักเรียน ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบึงไทรพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 4 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2547 จำนวน 40 คน
2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
2.2.1 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษารูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 15 แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ใน สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม โดยใช้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเลขหางหมามาประกอบในการคิดเลข ใช้เวลาทั้งหมด 20 ชั่วโมง โดยมีสาระการเรียนรู้ของแผนการเรียนรู้ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ค่าสัมบูรณ์และจำนวนตรงข้ามของจำนวนเต็ม
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4-5 เรื่อง การบวกจำนวนเต็มและวิธีการบวกเลขแบบเลขหางหมา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6-7 เรื่อง การลบจำนวนเต็มและวิธีการลบเลขหางหมา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8-10 เรื่อง การคูณจำนวนเต็มและวิธีการคูณเลขแบบเลขหางหมา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11-12 เรื่อง การหารจำนวนเต็มและวิธีการหารเลขแบบเลขหางหมา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 เรื่อง โจทย์ปัญหาการ บวก ลบ คูณ หาร จำนวนเต็ม ปริศนา คำทายเลขหางหมา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14-15 เรื่อง สมบัติของจำนวนเต็มและการวิเคราะห์สมบัติที่ใช้ในคิดเลขหางหมา
2.2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่
2.2.2.1 แบบบันทึกสนาม
2.2.2.2 แบบฝึกทักษะ
2.2.2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู
2.2.2.4 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน
2.2.2.5 แบบสัมภาษณ์นักเรียนเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้
2.2.2.6 แบบทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการ
2.2.3 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
2.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล
เทคนิคการรวบรวมข้อมูลในการวิจัย ได้แก่ การสังเกต การบันทึก การสัมภาษณ์ ในการดำเนินการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการปฏิบัติการสอนเอง โดยมีผู้ช่วยวิจัยเป็นผู้สังเกตและบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากการสังเกต มีขั้นตอนและรายละเอียดดังต่อไปนี้
2.3.1 ปฐมนิเทศนักเรียน โดยให้ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการสอนที่ใช้ในการจัดการเรียนรู้ คือ รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ บทบาทหน้าที่ เป้าหมาย ข้อตกลง เกณฑ์ต่าง ๆ สำหรับนักเรียนในการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ และการจัดกลุ่มนักเรียน
2.3.2 ดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม จำนวน 15 แผนการจัดการเรียนรู้ ใช้เวลาทั้งหมด 20 ชั่วโมงแบ่งออกเป็น 3 วงจรปฏิบัติการวิจัย ดังต่อไปนี้
วงจรปฏิบัติการวิจัยที่ 1 ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 – 5
วงจรปฏิบัติการวิจัยที่ 2 ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 – 10
วงจรปฏิบัติการวิจัยที่ 3 ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 – 15
2.3.3 เก็บรวบรวมข้อมูลทุกแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เครื่องมือ ได้แก่ แบบบันทึกสนามแบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู แบบสังเกตุพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน แบบสัมภาษณ์นักเรียน แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบย่อยท้ายวงจรปฏิบัติการ แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปรับปรุงข้อบกพร่อง สำหรับใช้ในวงจรปฏิบัติการต่อไป
2.3.4 เมื่อสิ้นสุดการจัดการเรียนรู้ทั้ง 3 วงจรปฏิบัติการแล้ว ทำการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แล้วนำไปวิเคราะห์ สรุปผล และแปลผลข้อมูลต่อไป
2.4 การวิเคราะห์ข้อมูล
ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้นำข้อมูลที่ได้จากเทคนิคการรวบรวมข้อมูล มาวิเคราะห์ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ดังนี้
2.4.1 ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ การหาค่าเฉลี่ย การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การหาค่าร้อยละ ของคะแนนจากแบบทดสอบ และค่าร้อยละของจำนวนคนที่ผ่านเกณฑ์เป้าหมายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เกณฑ์เป้าหมายนี้เป็นของโรงเรียนบึงไทรพิทยาคม จังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้กำหนดไว้ดังนี้ เกณฑ์ความรอบรู้ ร้อยละ 70 และเกณฑ์ จำนวนนักเรียนที่รอบรู้ ร้อยละ 70
2.4.2 ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ ข้อมูลจากการสังเกต การบันทึก การสัมภาษณ์ การตรวจแบบฝึกทักษะ ผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัยนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ วิจารณ์ เพื่อประเมินสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีข้อบกพร่องมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างไร แล้วหาแนวทางในการแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในวงจรต่อไปและสุดท้ายเพื่อให้ได้การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ เป็นการวิเคราะห์ตามรูปแบบของ Maykut and Morehouse (1994) อ้างถึงใน ผ่องพรรณ ตรัยมงคลกุล, 2543) ซึ่งมีการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 1) การวิเคราะห์ขั้นต้น (initial analysis) เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดำเนินการระหว่างการเก็บข้อมูลคือ การสังเกตพฤติกรรมการสอนของครู การสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน การบันทึกความคิดเห็นของนักเรียนจากการสัมภาษณ์นักเรียนเมื่อสิ้นสุดแต่ละวงจร สิ่งที่ดำเนินการในขั้นนี้ คือ การบันทึกและการกลั่นกรองข้อมูลตลอดจนการบนทึกข้อสังเกตต่าง ๆ 2) การจัดกลุ่มข้อมูล (categorizing) เป็นการลดทอนข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่ตามคุณลักษณะต่าง ๆ 3) การเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มข้อมูล (relating categories) เป็น การวิเคราะห์เพื่อหารูปแบบของความเชื่อมโยงในข้อมูล (pattern of relationship) เพื่ออธิบายกิจกรรมต่าง ๆ ที่ศึกษา
|