งานวิจิย 4

   
 


 

 

ข้อมูลส่วนตัว

สมุดบันทึก

หลักการผลิตสื่อการสอนคณิตศาสตร

งานวิจัย 1

งานวิจัย 2

งานวิจัย 3

งานวิจิย 4

งานวิจัย 5

งานวิจัย 6

 


     
 

การสร้างและหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  วิชาคณิตศาสตร์ดิสครีตต์

เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น  สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล
นาง พรภัสสร อ่อนเกิด . 2545 . การสร้างและหาประสิทธิภาพแบบเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องต้นสำหรับนักศึกษาระดับ ปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล,เทคโนโลยีเทคนิคศึกษา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

วัตถุประสงค์

1. เพื่อสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน วิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์ เรื่องทฤษฎีกราฟเบื้องต้น สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี ปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล

2. เพื่อหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สร้างขึ้น

3. เพื่อวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังจากเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

วิธีดำเนินการ

1. ระเบียบวิธีที่ใช้

2. กลุ่มตัวอย่าง

3. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

4. การดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล

5. การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

 

      ผู้วิจัยได้กำหนดวิธีการดำเนินการวิจัย  เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  วิชาคณิตศาสตร์ดิสครีตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น  สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี  สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์  คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม  สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล  โดยผู้วิจัยมีวิธีการตามขั้นตอนดังนี้

3.1  ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้

                 การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบแผนการวิจัยเชิงทดลอง  (Experimental  Research)  โดยใช้แบบแผนการทดลองที่มีกลุ่มตัวอย่างหนึ่งกลุ่ม  ทำการทดสอบก่อนและทดสอบหลังการทดลองทันที (One Group Pretest – Posttest Design)  มีรูปแบบดังตารางที่ 3-1

 

ตารางที่ 3 1  แสดงการทดลองที่มีกลุ่มตัวอย่างหนึ่งกลุ่ม  ทำการทดสอบก่อนและหลังการทดลองทันที

 

สอบก่อนเรียน

การทดลอง

สอบหลังเรียน

 

T1

 

X

 

T2

 

 

                        เมื่อ            X         คือ      การเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

                                            T1            คือ       คะแนนสอบก่อนเรียน

                                            T2        คือ       คะแนนสอบหลังเรียนทันที

 

3.2  กลุ่มตัวอย่าง

                        3.2.1  ประชากร  คือ  นักศึกษาระดับปริญญาตรี  สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม  สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล

                        3.2.2  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้  เป็นนักศึกษาภาควิชาครุศาสตร์คอมพิวเตอร์ระดับปริญญาตรี  สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์  คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม  สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล  ที่ลงทะเบียนเรียนในวิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์  (Discrete   Mathematics)  รหัสวิชา  11-612-102  ภาคการเรียนที่  2  ปีการศึกษา  2546  โดยจะทำการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง  จำนวน  22 คน  เพื่อนำมาทดลอง  และใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนซึ่งมีอาจารย์ผู้สอนและผู้วิจัยควบคุม

 

3.3    เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

                        3.3.1  การสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

                                    3.3.1.1  การวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น         
ก)  ศึกษาเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ดิสครีตต์ เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้นรหัสวิชา 11-612-102 ตามหลักสูตร  ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์    สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล  
ข)  วิเคราะห์วัตถุประสงค์การสอน  ในวิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์ เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น ด้านความรู้  (Knowledge) ที่จำเป็น โดยให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณกำหนดเนื้อหาที่จะสอนเนื่องจากเนื้อหาเน้นทางทฤษฏี แล้วนำมาแบ่งบทเรียนและเขียนวัตถุประสงค์การสอน

ค)  วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อเลือกเนื้อหาให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์  ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

            -  ศึกษาตำราและเอกสารต่าง ๆ  ที่เกี่ยวกับเนื้อหาวิชาคณิตศาสตร์ดิสครีตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น        

           -  จัดเรียนลำดับเนื้อหาให้ตรงตามวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม  โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น  3  บท ดังนี้

           บทที่  1  กราฟไม่ระบุทิศทาง  (Undirected Graph)

           บทที่  2  กราฟระบุทิศทาง  (Directed Graph)     
           บทที่  3  กราฟต้นไม้  (Trees  Graph)

                      -  นำเนื้อหาให้อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา  จำนวน  5  ท่าน  ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไข

                                                      3.3.1.2  การสร้างชุดบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  วิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น  มีขั้นตอนดังนี้

                                    ก)  เตรียมเนื้อหาบทเรียน  วิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น  ที่ได้จากการวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา

                                    ข)  นำวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมและเนื้อหา  วิชาคณิตศาสตร์ดิสครีตต์เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น  มาจัดแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อย่อย 

                                    ค)  นำเนื้อหาบทเรียนมาทำบทเรื่อง  (Script)  และออกแบบหน้าจอ

                                    ง)  ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากตำราและเอกสารต่าง ๆ  เกี่ยวกับการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  ในด้านรูปแบบตัวอักษรกราฟิก  สีและโปรแกรมเสริมต่าง ๆ  ที่ช่วยให้การสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีคุณภาพเพิ่มขึ้นได้แก่  Macromedia Flash  5, 3D MAX, Adobe Photo Shop 7 และ  Edit Cool 2000

                                    จ)  สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  วิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น  โดยใช้โปรแกรม  Macromedia Authorware 6

                                    ช)  การทดลองใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนและปรับปรุงแก้ไข

                        การทดลองครั้งที่  1 เพื่อศึกษาข้อบกพร่องต่าง ๆ  ทางด้านเนื้อหา  การดำเนินเรื่อง  รูปแบบและภาษาที่ใช้  การเชื่อมโยง  เสียง  รวมถึงเวลาที่ใช้ในการเรียนการสอน  เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงแก้ไข  กับนักศึกษาที่ไม่ใช่กลุ่มทดลองจำนวน  3  คน  โดยเลือกจากนักศึกษาที่ผ่านการเรียนวิชานี้มาแล้วนำมาจัดลำดับคะแนน แล้วเลือกจากกลุ่มที่ได้คะแนนสูง  1  คน  คะแนนปานกลาง  1  คน  และคะแนนต่ำ  1  คน

                        การทดลองครั้งที่  2  กับนักศึกษาจำนวน  6  คน  ที่ไม่ใช่กลุ่มทดลอง  โดยเลือกจากนักศึกษาที่ผ่านการเรียนวิชานี้มาแล้วเช่นกัน  นำมาจัดลำดับคะแนน   แล้วเลือกจากกลุ่มที่ได้คะแนนสูง  2  คน  คะแนนปานกลาง  2  คน  และคะแนนต่ำ  2  คน  นำไปวิเคราะห์หาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีประสิทธิภาพ  86.31/83.04

                                    ซ)  นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาและด้านการผลิตสื่อการสอน  ประเมินคุณภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่พัฒนา  โดยแบบประเมินที่ใช้รายละเอียดในการประเมินได้ผ่านการตรวจสอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาเรียบร้อยแล้ว

                        การพิจารณาเกณฑ์การประเมินตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ  จากผลของค่าเฉลี่ยที่ได้รับตามแนวทางของเบสท์  (Best)  ดังนี้  (Best, 1983 : 179-187) 

                                                ค่าเฉลี่ย                                                  สรุปผลการประเมิน

                                             4.50  -  5.0                                                            ดีมาก

                                             3.50 4.49                                                                ดี

                                             2.50 3.49                                                            ใช้ได้

                                             1.50 2.49                                                     ควรปรับปรุง

                                             1.00 1.49                                                         ใช้ไม่ได้

                        ผลจากการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา  ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ  3.70  อยู่ในเกณฑ์ดีจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการผลิตสื่อ ได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ  4.13  อยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน

                                    ฌ)  นำบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  วิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น  ที่สมบูรณ์แล้วไปใช้เก็บข้อมูลจริงจากกลุ่มตัวอย่าง

 

  

อาจารย์ที่ปรึกษา

 

ผ่าน

 

ผ่าน

 

ไม่ผ่าน

 

ไม่ผ่าน

 

ผู้เชี่ยวชาญ

 

ปรับปรุงแก้ไข

 

 

บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

นำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง

 

ปรับปรุงแก้ไข

 

ทดลองใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

 

ปรับปรุงแก้ไข

 

 

สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

 

ออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

 

กำหนดวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม

 
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       

 

 

 

 

 

 

3.3.2          การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

3.3.2.1    วิเคราะห์เนื้อหา  วิชาคณิตศาสตร์ดีสคริตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้น

3.3.2.2    วิเคราะห์วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมของเนื้อหาทั้งหมด

3.3.2.3    ศึกษาตำราและเอกสารเกี่ยวกับการวัดและการประเมินผลการศึกษา  เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสร้างข้อสอบ  และเขียนข้อสอบ

3.3.2.4    สร้างแบบทดสอบเลือกตอบชนิด  4  ตัวเลือกที่คลอบคลุมเนื้อหาและวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมจำนวน  119  ข้อ

3.3.2.5    นำแบบทดสอบที่สร้างขึ้นให้อาจารย์ที่ปรึกษา  และผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาจำนวน  5  ท่าน  ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไข  เพื่อให้ได้ข้อสอบที่มีความเที่ยงตรงตามเนื้อหาและด้านอื่น ๆ ที่มีผลต่อการวิจัย

3.3.2.6    นำแบบทดสอบที่ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลอง  (Tryout)  กับนักศึกษาระดับปริญญาตรี  สาขาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  จำนวน  22  คนซึ่งกำลังเรียนวิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องต้นในภาคการเรียนที่ 1 ปีการศึกษา  2545  จำนวน  119  ข้อ  เพื่อวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย  (Level of Difficulty)  และค่าอำนาจจำแนก   (Discrimination  Power)  ของแบบทดสอบ โดจใช้โปรแกรมวิเคราะห์ข้อสอบ  ITEM (Item Analysis : Classical Test Model)  โดยถือเกณฑ์พิจารณาดังนี้  ให้ข้อสอบมี่ค่าความยากง่าย  (P)  อยู่ระหว่าง  0.2 – 0.8  และมีค่าอำนาจจำแนก  (D)  ตั้งแต่  0.20  ขึ้นไป  และการหาคุณภาพของแบบทดสอบทั้งฉบับ  ผู้วิจัยหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ  (Rellability)  โดยใช้สูตร  คูเตอร์  ริชาร์ตสัน  (Kuder Richardson  Formula 20)  (ล้วนและอัคณา, 2538 : 198)  ได่ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ  0.95  แล้วนำมาดำเนินการเลือกข้อสอบที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวและถูกนำมาใช้จริงจำนวน  68  ข้อ  และนำมาหาค่าความเชื่องมั่นอีกครั้งได้เท่ากับ  0.95  แล้วจึงนำข้อสอบชุดนี้ไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง  โดยแบ่งข้อสอบออกเป็น  2  ชุด  ชุดแรกใช้เป็นแบบทดสอบระหว่างเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจำนวน  56  ข้อ  ชุดที่สองใช้เป้นแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนจำนวน  56  ข้อ  โดยครอบคลุมวัตถุประสงค์  ของเนื้อหาทั้งหมด  แล้วนำแบบทดสอบชุดที่สองมาคำนวณหาค่าความเชื่อมั่นอีกครั้ง  ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ  0.94 

 

3.4          การดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล

การทดลองครั้งนี้มีเนื้อหาทั้งหมด  3  บทเรียน  ผู้วิจัยกำหนดวันทดลอง  ดังนี้

วันที่  14  มกราคม  พ.ศ.  2546

วันที่  21  มกราคม  พ.ศ.  2546

3.4.1          การเตรียมสถานที่

ใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์  ห้อง  1502  ของศูนย์คอมพิวเตอร์สารสนเทศและ

บริการวิชาการ  ซึ่งเชื่อมต่อระบบเครือข่ายแลน   (LAN) เป็นเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์รุ่น  Pentium III  800  MHz.  มีการ์ดเสียง  (Sound  Card)  จอภาพ  (Monitor)  ขนาด  15  นิ้ว  ฮาร์ดดิสก์  (HardDisk)  20 GB.  CD-ROM  Drive  และหูฟัง  (Head Phone)  ทุกเครื่องจำนวน  30 เครื่อง

3.4.2          แจกข้อสอบให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบก่อนเรียน

                        3.4.3     ทำการสอนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน   วิชาคณิตศาสตร์ดีสครีตต์  เรื่องทฤษฏีกราฟเบื้องตั้นให้กับกลุ่มตัวอย่าง  โดยมีอาจารย์  1  ท่านและเจ้าหน้าที่ประจำห้องศูนย์คอมพิวเตอร์  1  ท่าน  คอยดูแล

                        3.4.4     แจกข้อสอบให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบหลังเรียน

                        3.4.5     นำผลที่ได้จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน  และแบบทดสอบหลังเรียนของกลุ่มตัวอย่าง  ไปวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและนำผลที่ได้จากการทำแบบทดสอบระหว่างเรียน  และแบบทดสอบหลังเรียนไปวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

 

กลุ่มตัวอย่าง

 
                                           

 

วิเคราะห์หาประสิทธิภาพบท

เรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

 

วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ระหว่างก่อนเรียน

และหลังเรียน

 

เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

 

ทดสอบหลังเรียน

 

ทดสอบระหว่างเรียน

 

ทำแบบฝึกหัด

 

ทดสอบก่อนเรียน

 
                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                












ภาพที่  3
2  แสดงขั้นตอนการทดลองและการวิเคราะห์ข้อมูล

 3.5  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

                        การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูล  โดยการคำนวณหาค่าทางสถิติ  ในการวิเคราะห์แบบทดสอบ  การคำนวณค่าความยากง่าย  (Difficultly  Power)  ค่าอำนาจจำแนก  (Discrimination  Power)  และค่าความเชื่อมั่น  (Reliability)  ซึ่งมีสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้

                        3.5.1  สถิติที่ใช้ในการวิเคระห์แบบทดสอบ

                                            3.5.3.1  หาค่าความยากง่าย   (Difficultly)  Power)  และค่าอำนาจจำแนก (Discrimination Power)  ของแบบทดสอบ

                                            สูตรหาค่าความยากง่ายของข้อสอบ  (ล้วนและอังคณา,  2538 : 210 – 211)

 

                                                         P      =     

                เมื่อ                 P         คือ     ค่าความยากง่าย

                                       R        คือ       จรวรคนที่ทำข้อนั้นถูก

                                      N         คือ       จำนวนคนที่ทำข้อนั้นทั้งหมด

                                            โดยพิจารณาเลือกข้อสอบที่มีค่าความยากง่ายในช่วง  0.20 0.80

                                            สูตรหาค่าอำนาจจำแนกของข้อสอบ (ล้วนและอัคณา, 2538 : 211)

                                                             D     =      

                   เมื่อ           D         คือ       ค่าอำนาจจำแนก

                                      Ru        คือ      จำนวนนักเรียนที่ตอบถุกในกลุ่มเก่ง

                                       RL           คือ      จำนวนนักเรียนที่ตอบถูกในกลุ่มออ่น

                                    N         คือ       จำนวนนักเรียนในกลุ่มเก่งและกลุ่มนอน

                                            โดยพิจารณาเลือกข้อสอบที่มีค่าอำนวจจำแนกตั้งแต่  0.20  ขึ้นไป

3.53.5.2     หาค่าความเชื่อมั่น  (Reliability)  ของแบบทดสอบ

สูตรหาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยใช้สูตร KR 20  (Kuder Richardson Formula 20)  (ล้วนและอังคณา,  2538 : 198)

 

                        rtt              =         
เมื่อ                 rtt         คือ       ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งสอง

                               n            คือ           จำนวนข้อของเครื่องมือวัด

เทคโนโลยีที่ใช้ โปรแกรมMacromedia Flash5,3DMAX,Adobe Photo Shop7 และ Edit Cool2000

 

                        ภาพที่ 3-1  แสดงขั้นตอนการสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
 

 
 

Today, there have been 9 visitors (11 hits) on this page!

 

 
................................................................................................
This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free